Juvederm เป็นสารฉีดเติมเต็มอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมใช่กันในปัจจุบัน ช่วยเติมเต็มรอยบุ๋มขนาดปาน กลางๆของผิวหนัง โดยการฉีดเข้าชั้น mid- dermis นอกจากนั้นยังสามารถเติมริมฝีปากให้เอิบอิ่มสวยงามได้ด้วย
ประโยชน์ของ Juvederm
- ในขบวนการผลิต juvederm มีการผสมยาชาเข้าไปในโมเลกุลของhyaluronic acid เรียบร้อย ทำให้ขณะฉีดมีความรู้สึกเจ็บน้อยมาก จนแทบไม่รู้สึกเลย คนไข้จะรู้สึกสบายมากขึ้นในขณะฉีด
- โมเลกุลของ hyaluronic acid ที่เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แขวนลอยอยู่กับตัวนำพาเหมือน fillers ตัวอื่นๆ ทำให้ Juvederm อยู่ได้นานไม่สลายจากผิวหนังเร็วเกินไป ลดโอกาสเกิดก้อนหรือผิวไม่เรียบหลังการฉีด
- Juvederm ลดโอกาสการกระจายตัวหรือออกไปสู่บริเวณข้างเคียงได้ค่อนข้างมาก
- Juvederm มีความเข้มข้นของปริมาณ hyaluronic acid ต่อ 1 มิลลิลิตร (ml)
วิธีการใช้ยา
- Juvederm ใช้ฉีดเข้าผิวหนังชั้น dermid หรือเยื่อบุริมฝีปาก เพื่อเติมเต็มให้ผิวดูสวยงาม ควรใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนเทคนิคการฉีดเท่านั้น
ข้อควรระวังหรือข้อปฏิบัติตัวหลังการฉีด Juverderm
- การปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากการฉีดมากที่สุด
- ภายใน 12 ชั่วโมงแรก งด การใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก เลี่ยง การอยู่ในที่ร้อน เช่น แตกแดด หรือ อบซาวน่า และการได้รับรังสียูวี
เลี่ยงการอยู่ในที่เย็นจัด เช่น การเล่นสกี
- พบแพทย์ หลังฉีด juvederm แพทย์จะนัดพบอีกครั้งภายใน 2สัปดาห์ เพื่อตรวจติดตามผล และอาจมีการฉีดเพิ่มในกรณีจำเป็น
สังเกตอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
ควรรีบไปพบแพทย์หากเกิดอาการเหล่านี้
- การอักเสบ ( บวม แดง ผื่นคัน ) หรืออาการปวดซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังการฉีด 1 สัปดาห์
- อาการห้อเลือด เนื้อเยื้อแข็งตัว ผิวหนังเปลี่ยนสี ฝี หรืออาการผิดปกติอื่นใดซึ่งเรื้อรังนานกว่า 1 สัปดาห์
Juvederm จะมีประสิทธิภาพอยู่ได้นานนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยในแต่ละราย ผู้ป่วยจึงควรพบแพทย์เป็นระยะ
No comments:
Post a Comment